*..รอโหลดซักกะเดี๋ยว..*           ฝ่าวิกฤติการเมืองไทย..๒๕๔๙
. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ
คลิกที่นี่...ดูสด VoiceTV และ AsiaUpdate *..รอโหลดซักกะเดี๋ยวเตง..*
  

@ ปู้นนน...!!! คนเมืองใต้เจียงใหม่ของหมู่เฮาลงไปตางปู๊นนน..... * * * * * @ 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เล่าให้ฟัง >> ทักษิณ..บินไปทั่วโลก 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19,


เล่าให้ฟัง >> ทักษิณ..บินไปทั่วโลก 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19,
By: Thaksin Shinawatra


12, 2 พฤษภาคม 2556

วันที่ 27 เมษายน กลางคืน ผมบินไปถึงกัวลาลัมเปอร์ ได้ไปพบท่านอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด และท่านนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซะก์ ในวันที่ 28 ครับ เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเรื่อง ASEAN และสังเกตการณ์เลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ค.นี้ เท่าที่ประเมินทาง UMNO ก็น่าจะชนะอย่างไม่มีปัญหา เหลือเพียงว่าจะถึง 2 ใน 3 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐที่เป็น Swing Vote บางรัฐ ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย นอกจากนั้นก็ได้พบกับนักธุรกิจมาเลเซียที่สนใจไปลงทุนในต่างประเทศไทยอีก 4-5 ราย

ในวันที่ 29 ก่อนจะเดินทางมาฮ่องกงก็ได้พบกับอุสตาซ(ครูสอนศาสนา) ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของไทย ก็เลยขอความร่วมมือช่วยกันทำให้ภาคใต้สงบ โดยขอให้เชิญทุกกลุ่มมาพูดคุยกับคณะของสภาความมั่นคงเพื่อประสานความเข้าใจ และช่วยกันพัฒนาประเทศให้เกิดความผาสุกด้วยกันครับ


13, 3 พฤษภาคม 2556

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ผมได้ไปประเทศอิรักพบกับ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี Maliki ก็ได้พูดคุยกันถึงความร่วมมือ 2 ประเทศด้านพลังงานและอาหารครับ ท่านเป็นนักปฏิบัติจริงๆ รีบสั่งการให้เชิญ รมต.พลังงาน รมต.เกษตรฯ และ รมต.พาณิชย์ของเราไปเยือนด่วนและขอให้นำนักธุรกิจไปด้วย เขาอยากได้แรงงานไทยแต่ผมยังเฉยๆกับเรื่องนี้เพราะบ้านเราก็ยังขาดแรงงานอยู่เยอะ แต่สนใจให้เขาซื้อยางพารา ข้าว น้ำตาล จากไทย และสนใจให้ปตท.ไปช่วยขยายกำลังการผลิตน้ำมันของเขา แล้วเอาน้ำมันมาแลกสินค้าเกษตร เขาอยากมาเยือนเมืองไทยหลังจาก รมต.ของเราไปเยือนเขาและมีรูปธรรมแห่งการทำงานร่วมกันของ 2 ประเทศ

อิรักตอนนี้ก็ยังมีเหตุการณ์อยู่บ้างแต่น้อยลงเยอะ ไปไหนมาไหนยังมีป้อม มีรถถัง มีทหาร ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือยืนอยู่ตามแยกต่างๆคล้ายๆภาคใต้ของเราครับ


14, 6 พฤษภาคม 2556

เมื่อวานนี้ไปมาเก๊ามา ผู้คนเยอะมาก คนจีนหวังมาเสี่ยงโชคเช่นเคย ตรงข้ามกับมาเก๊า ซึ่งถือเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน จีนได้กำหนดให้เมืองจูไห่ซึ่งขับรถข้ามจากมาเก๊าไปนิดเดียวก็ถึง ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งน่าสนใจมากครับ

จีนกำลังเร่งพัฒนาจูไห่ โดยเข้าใจว่าจะมีใบอนุญาตพิเศษหลายอย่างรวมทั้งสถาบันการเงินด้วย เลขาพรรคคอมมิวนิสต์ประจำจูไห่ ซึ่งเขาให้เป็นเทียบเท่ารัฐมนตรีว่าการ เป็นคนหนุ่ม เคยเป็นเลขาพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองเหมยเซี่ยน เมืองเล็กๆในมณฑลกวางตุ้งที่คนจีนแคะอยู่กันและเคย...ไปเยี่ยมบ้านและที่ฝังศพบรรพบุรุษสายแม่ผม ท่านผู้นี้เคยนำผมทัวร์เมื่อปี ค.ศ.2005 เขาเชิญผมไปดูเมืองจูไห่ ซึ่งถ้าผมไปได้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยก็จะมาเล่าให้ฟัง

มีพรรคพวกคนหนึ่งจะเอาเทคโนโลยีสร้างตึกรวดเร็วที่ทำจากโรงงานมาประกอบที่ผมเคยเล่าให้ฟังไปสร้างที่จูไห่ แล้วจะขอเชิญทีมที่สร้างตึกสูงที่สุดในโลกของดูไบมาบริหารเพื่อให้เกิด Brand เพื่อการขาย ซึ่งก็เป็น idea ที่ดี

วันนี้เรื่อง Brand เรื่อง Synergy เรื่องการทำ Value Creation เรื่องของ Economy of speed เป็นหัวใจของการช่วงชิงตลาดและการกำหนดราคา ก็อยากจะฝากเป็นการบ้านให้นักธุรกิจ นักบริหาร และนักวิชาการของไทย ได้นำไปคิดครับ


15, 6 พฤษภาคม 2556

ขออนุญาตเก็บตกจากโพสท์ช่วงบ่ายครับ ในรูปคือเค้กที่ complement จากผู้จัดการโรงแรมมาเก๊า ทั้งสวยทั้งอร่อย กินได้ทุกส่วนยกเว้นส่วนหัวของสุนัขครับ


16, 11 พฤษภาคม 2556

ท่านเคยได้ยินคำว่า Functional Medicine ไหมครับ ตอนนี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของวงการแพทย์อเมริกาที่กำลังฮิต ผมบังเอิญมาปักกิ่งได้พบกับแพทย์ชาวจีนที่เป็นลูกศิษย์ของหมออเมริกันที่ดูแลสุขภาพให้ทั้งประธานาธิบดีโอบาม่า และประธานาธิบดีคลินตั้น เขาใช้วิธีการ Functional Medicine นี้นั่นเอง

หลักการก็คือเขามีความเชื่อว่าอวัยวะทุกส่วน ถ้าทำงานร่วมกันได้ดีไม่มากไปไม่น้อยไป ก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีความสมดุลและก็จะแข็งแรง โรคเล็กโรคน้อยก็จะหายไปอย่างปลิดทิ้ง โดยอาศัยการค้นพบ DNA ของมนุษย์แล้ววิเคราะห์ได้อย่างละเอียดถึงความบกพร่องในการทำงานของมันแล้วให้ยาที่เหมาะสมเพื่อแก้ไข หมอจีนคนนี้ก็เลยเจาะเลือดผมไปเป็นสิบหลอดพร้อมปัสสาวะ ส่งไปตรวจ Lab ที่สหรัฐอเมริกา จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะวิเคราะห์กลับมาพร้อมบอกว่าจะต้องทานยาอะไร งด/เพิ่มอาหารหมวดไหน ร่างกายเราก็จะทำงานได้เหมือนคนอายุน้อยกว่าอายุจริง ที่เมืองไทยก็มีการทำเช่นนี้แล้ว แต่ก็ต้องส่งไปตรวจ Lab ที่อเมริกาเช่นกัน

ที่ผมพูดให้ฟังก็อยากจะให้ทุกคนได้รู้จักรักษาร่างกายตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปให้ดีขึ้น และมากกว่านั้นคือผมอยากจะพูดถึงวิชาการบริหารองค์กรและแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงไปของมนุษย์ (Paradigm Shift) ที่เปลี่ยนจากวิธีคิดที่เป็นไปตามวิวัฒนาการตามที่ Alvin Toffler เคยพูดไว้เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วในหนังสือ The Third Wave คือยุคเกษตร มาสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและยุคสังคมข่าวสาร ซึ่งวิธีคิดก็จะเปลี่ยนตาม ช้า/เร็วแล้วแต่สาขาวิชาและประเทศ

Functional Medicine ก็เป็นการเปลี่ยนความคิดที่มองปัญหาเป็นจุดๆเหมือนยุคอุตสาหกรรม มาเป็นยุคการมองแบบองค์รวมของการทำงานร่วมกันของอวัยวะภายในร่างกายหรือองค์กรเดียวกันนั่นเอง ไม่แยกส่วน การแก้ปัญหาก็จะง่ายเพราะมองปัญหาได้ในภาพรวม วางยุทธศาสตร์ วิธีคิดและวิธีการศึกษา วิธีการบริหารองค์กร

โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ยังล้าหลังอยู่มาก ยังมองปัญหาแยกส่วน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น หรือองค์กรอิสระ ศาล รัฐบาล สภาฯ ซึ่งประเทศต้นแบบที่เราไปเรียนมาเขาก็ไม่เป็นแบบเรา ประเทศไทยจึงขาดการมียุทธศาสตร์ชาติที่เป็นการมองประเทศไทยอย่างเป็นองค์รวม การแก้ปัญหาก็ยังไม่เข้าใจ คำว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค คือเราไม่จริงจังกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนั่นเอง


17, 14 พฤษภาคม 2556

ผมกลับมาถึงดูไบเช้านี้ก็มาดูข่าว บังเอิญมีข่าว 2 ข่าวไล่เลี่ยกัน ข่าวแรกก็คือการแห่รถฉลองตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2013 ของ Man United มีแฟนๆของ Man United ออกมาแสดงความยินดีตลอดเส้นทางอย่างมีความสุข ซึ่งผมก็ขอแสดงความยินดีถึงแฟน Man United ที่เมืองไทยทุกคนด้วยครับ

เสร็จแล้วก็มีอีกข่าวหนึ่งคือการปลด Roberto Mancini ออกจากผู้จัดการของ Man City เขาก็ตัดภาพการฉลองที่เมือง Manchester เช่นกันของทีม Man City ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2012 หรือปีที่แล้ว แฟน Man City ก็ออกมาชื่นชม...จำนวนมากด้วยความสุข ที่น่าสังเกตคือไม่มีแฟนฝั่งตรงข้ามของทั้งสองทีมออกมาแสดงความโห่ฮาหรือไม่พอใจอะไร ทั้งๆที่อยู่เมืองเดียวกันและแข่งกันทุกปี แฟนใครแฟนมัน ทำให้ผมคิดถึงระดับภาวะจิตใจของคน ประเพณี มารยาทสังคม ความมีน้ำใจนักกีฬา การรู้จักเคารพกติกาของผู้คน น่านับถือมากครับ ทำให้ผมมาหวนคิดว่าทำไม ก็ตอบได้บางส่วนว่าการรู้จักเคารพกติกา แพ้เป็นแพ้ชนะเป็นชนะ กรรมการและผู้จัดการแข่งขันมีกติกาที่เปิดเผยชัดเจนแทบจะไม่มีประเด็นให้ตีความด้วยความรู้สึก ทุกคนก็รักษาความเป็นธรรม สังคมจึงไม่มีใครกล้าพิเรนทร์ออกมาเพราะจะเป็นตัวประหลาด

ย้อนกลับมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการโกหก ความไม่ชัดเจนของกติกา กติกาต้องตีความตลอดเวลา มีคนตั้งคำถามกับทุกข้อของกติกาตีความตามใจชอบ กรรมการไม่ยอมรักษาความเป็นกลาง เป็นธรรม ไม่ตัดสินบนพื้นฐานแห่งข้อเท็จจริงและกฎหมายที่มีอยู่ ตัดสินตามอารมณ์แห่งใครพวกใคร บางทีก็ตามธง นักการเมืองที่ไม่สามารถชนะได้ตามกติกา ก็อาศัยจุดด้อยเหล่านี้ของสังคมไทยปัจจุบัน ความแตกแยกนอกจากจบไม่ลงแล้วทำท่าจะแย่ลง

เราส่วนใหญ่ชอบดูบอลอังกฤษโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก น่าจะเอาปรัชญาของกีฬามาใช้บ้างก็จะเป็นประโยชน์ วันนี้แพ้ก็ไปฟิตใหม่ วางแผนใหม่ ปีหน้าก็อาจชนะได้ Man United ชนะแล้วชนะอีก เขาไม่เห็นต้องยุบสโมสร Man United เลยครับ บางช่วง Chelsea ฟิตขึ้นมาก็ชนะหลายครั้ง ก็ไม่ถูกยุบสโมสรเหมือนกันทั้งๆที่เจ้าของ Chelsea เป็นรัสเซีย เจ้าของ Man United เป็นสหรัฐ

คำเดียวครับ เคารพกติกา มีน้ำใจนักกีฬาครับ ไทยเจริญแน่


18, 17 พฤษภาคม 2556

เมื่อวานนี้ ญี่ปุ่นประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจไตรมาสที่1ของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) ว่า GDP โตถึง 3.5% นับเป็นการโตที่มากสำหรับญี่ปุ่น เพราะเศรษฐกิจแย่มานาน ค่อนข้างชัดว่า ผลการเติบโตส่วนใหญ่ก็ได้มาจากนโยบายของท่านนายกฯ อาเบะ ที่ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนลง...กว่า 20% รวมทั้งพิมพ์ธนบัตรออกใช้มากขึ้นมาก

ที่เขาทำได้ก็เพราะธนาคารกลาง(หรือแบงค์ชาติ)ของญี่ปุ่นขึ้นตรงกับรัฐบาล เขาจึงสามารถทำยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแบบองค์รวม (Holistic Approach) โดยประธานนโยบายการเงิน (Monetary Policy) กับนโยบายการคลัง (Fiscal Policy) ได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนครับญี่ปุ่นยังต้องมีอีกหลายมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจภายในแข็งแกร่งกว่านี้

ที่สำคัญโครงสร้างการบริหารประเทศของญี่ปุ่นเขาเป็นประชาธิปไตยจริงๆ เขาถือว่าประชาชนมีอำนาจสูงสุด เมื่อประชาชนเลือกใครเข้ามาก็ให้โอกาสทำงานเต็มฝีมือ ถ้าทำไม่ดีประชาชนก็ไม่เลือกกลับมาอีก แต่ของเรายังเป็นประชาธิปไตยแบบแค่นๆ คือไม่เต็มใจให้เป็น จึงเกิดความหวาดระแวงตัวแทนอำนาจประชาชน โดยใช้วิธีแยกอำนาจออกเป็นส่วนๆแทนจนคุยกันไม่ได้ วางยุทธศาสตร์ร่วมกันไม่ได้ ซึ่งผลเสียก็ตกกับประเทศชาติและประชาชน

อย่างกรณีธนาคารแห่งประเทศไทยของเราก็มีกฎหมายของรัฐบาลช่วงรัฐประหารแยกตัวเองออกมา จนไม่ฟังรัฐบาล ซึ่งทำให้ดูน่าวิตกเพราะต่างคนต่างใช้นโยบายของตน มีความเชื่อของตน ตอนนี้เงินจากต่างประเทศไหลเข้าไทยอย่างมากจนน่าวิตก มูลค่าทางตลาด (Market Capitalization) ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์รวมกันโตกว่า GDP ประเทศ จึงมีคำถามว่าเกิด Asset Pricing Bubble หรือไม่ แล้วเราจะมีมาตรการอะไรร่วมกันไหมระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย ผมเป็นห่วงครับ ถ้ามองแค่ปัจจุบันกับอนาคตสั้นๆภายในปีเดียว ก็ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าคิดยาวคิดไปล่วงหน้า 2-3 ปี อันตรายครับ

สิ่งที่กังวลก็คือ เรามีคนดี คนมีความรู้และการศึกษาสูงมาก แต่เป็นพวกมี Knowledge แต่มี Wisdom ไม่พอ จะรู้ไม่เท่าทันโลกทุนนิยม ที่หนักกว่านั้นคือ พวก Wisdom ไม่พอดันขยันพูดอีกต่างหาก

ประเทศไทยเรา GDP ส่วนใหญ่มาจาก Export (ส่งออก) ซึ่งมีทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร บาทแข็งขึ้น 1 บาท GDP จะหายไปประมาณ 0.7% รัฐบาลจึงจำเป็นต้องใช้นโยบายอัดฉีดเงินลงสู่รากหญ้า และเพิ่มงบลงทุนของรัฐบาล เช่น โครงการ 2 ล้านล้าน ถ้านโยบายการคลังถูกใช้เยอะเกินไปก็อันตราย เพราะฉะนั้นนโยบายการเงินต้องช่วยไม่ใช่เป็นภาระแบบนี้

ตอนผมเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในปี 2537-2538 ผมก็เห็นสัญญาณไม่ดีหลายอย่าง เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นกรรมการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตำแหน่งร่วมกับรัฐมนตรีพาณิชย์และรัฐมนตรีคลัง

ผมได้เตือนธนาคารแห่งประเทศไทยกับกระทรวงการคลังทุกครั้งในที่ประชุมแต่ก็ได้รับการชี้แจงแก้ตัวตลอดเวลา จนมาถึงเศรษฐกิจพังตอนปี 2540 ผมเป็นคนชอบดูดัชนีต่างๆและชอบตกใจล่วงหน้า เหมือนที่ผู้ก่อตั้งบริษัท Intel คือนาย Andrew Grove พูดว่า

During the crisis only the paranoid survive ครับ


19, 18 พฤษภาคม 2556

วันนี้ไปรับแขกที่โรงแรม Kempinski ที่ดูไบครับ โรงแรมกำลังซ่อมแซมบริเวณ Lobby จึงมีการกั้นและตกแต่งไว้ไม่ให้ดูน่าเกลียด มีเสียงของการตอกตะปูบ้าง ผมเหลือบไปเห็นตัวหนังสือที่ผนังกั้นการซ่อมแซมที่เขียนว่า "What you hear are the sounds of change...." ผมเลยเข้าไปถ่ายรูปมาให้พี่น้องดู มันช่างเป็นความคิดสร้างสรรค์ เป็นการประดิษฐ์คำได้สร้างสรรค์มากครับ

แทนที่เราจะรำคาญเสียง เขากลับบอกว่ามันเป็นเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง แน่นอนครับ มันทำให้เราจินตนาการในทางสร้างสรรค์ตามเขาทันทีว่า ทนเอานะอีกไม่นานจะมีการทำให้ Lobby นี้สวยขึ้น สะดวกในการใช้งานมากขึ้น ผมกำลังจะบอกว่าประเทศหรือผู้คนที่มีอารยธรรมเขาจะใช้สมองด้านขวามองโลกในแง่ดี สร้างสรรค์สังคมให้มีความรู้สึกดีๆต่อกัน มีจินตนาการในทางที่ดี แต่ถ้าใช้สมองข้างซ้ายมากเกินไปก็จะเกิดการมองโลกในแง่ร้าย ให้ร้ายคนอื่น ชวนคนอื่นจินตนาการไปในทางเลวร้าย สังคมแตกแยก ไม่ไว้ใจกัน มีแต่ประดิษฐ์คำที่ใส่ร้ายป้ายสีทำร้ายคนอื่นตลอดเวลา อันนี้เป็นอันตรายถ่วงความเจริญของสังคมและบ้านเมืองครับ

เชิญติดตามตอนต่อไป : เล่าให้ฟัง >> ทักษิณ..บินไปทั่วโลก 20, 21, 22, 23, 24, 25,